“ประวิตร” ลงพื้นที่น้ำท่วมสระแก้ว “ธรรมนัส” นำทีมองครักษ์ ไม่พลาดส่องเลข ฮ. 4 ตัวเต็มๆ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคฯ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อรับฟังสถานการณ์น้ำ และภาพรวมการบริหารจัดการน้ำตามมาตรการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ และแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งทั้งระบบ

และเดินทางไปจุดก่อสร้างโครงการประตูน้ำพร้อมสถานีสูบน้ำห้วยพรมโหด เพื่อตรวจเยี่ยมและฟังปัญหาและแผนการบริหารจัดการน้ำท่วมในพื้นที่เทศบาลเมืองอรัญประเทศและตลาดโรงเกลือเพื่อการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งในเขตพื้นที่ อ.อรัญประเทศ

นอกจากนี้จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนและมอบทุนการศึกษาที่โรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม อำเภอวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงพักเที่ยง พล.อ.ประวิตร มีกำหนดการรับประทานอาหารที่ บ้านสวนน้ำเขาฉกรรจ์ ซึ่งเป็นบ้านพักของ ขวัญเรือน เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว มารดาของ ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และอยู่ติดกับสวนรุกขชาติเขาฉกรรจ์ โดยตามเส้นทางและเขตพื้นที่สวนรุกขชาติ

จนถึงเขตพื้นที่บ้านสวนน้ำเขาฉกรรจ์ ได้มีการจัดทำความสะอาด ปรับภูมิทัศน์ มีการปลูกสมุนไพรไทย และทำป้ายห้ามชาวบ้านเข้าไปเก็บสมุนไพร ในเขตสวนรุกขชาติโดยเด็ดขาด อีกด้วย

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของ จ.สระแก้ว ซึ่งรัฐบาลได้มีนโยบายในการแก้ไขปัญหาระยะสั้น โดยได้กำหนด 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2564 และในระยะยาวรัฐบาลได้กำหนดแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่

โดยได้กำชับให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือเพื่อเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและเตรียมแผนเผชิญเหตุให้พร้อม และต้องแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์ล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

ส่วนโครงการบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งพื้นที่เกษตรและพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว ได้กำชับให้กรมชลประทานต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยต้องทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อให้ได้รับการยอมรับและเกิดความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาด้านน้ำในระดับพื้นที่ได้อย่างตรงจุด

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้จังหวัด กรมชลประทาน หน่วยงานความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมในการสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในการบริหารจัดการน้ำร่วมกับประเทศกัมพูชา ในการระบายน้ำหลากจากประเทศไทยผ่านไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบันของ จ.สระแก้ว ณ วันที่ 7 ต.ค. 64 มีปริมาณน้ำรวม 240.06 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือ77% แบ่งเป็น แหล่งน้ำขนาดกลาง 13 แห่ง ความจุรวม 266 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำ 217.06 ล้าน ลบ.ม. (82%) แหล่งน้ำขนาดเล็ก 1,399 แห่ง ความจุรวม 44 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำ 23 ล้าน ลบ.ม. (52%) และมีอ่างเก็บน้ำต้องที่เฝ้าระวัง

เนื่องจากมีปริมาณน้ำมากกว่า 90% ของความจุ จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำพระปรง ห้วยชัน ท่ากะบาก เขารัง คลองเกลือ ช่องกล่ำล่าง เขาดิน ห้วยตะเคียน คลองส้มป่อย และคลองตาด้วง

ทั้งนี้ จ.สระแก้ว อยู่ในเขต 2 ลุ่มน้ำ คือ ลุ่มน้ำโตนเลสาปและลุ่มน้ำบางปะกง มีลำน้ำที่สำคัญคือ คลองพระปรง คลองพระสะทึง ห้วยพรมโหด และลำสะโตน มีพื้นที่เป้าหมายในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งในเชิงพื้นที่อย่างเป็นระบบ (Area Based) จำนวน 2 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ลุ่มน้ำโตนเลสาบและลุ่มน้ำปราจีนบุรีตอนบน

ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มักประสบปัญหาด้านอุทกภัยในช่วงฤดูน้ำหลาก โดยเฉพาะใน อ.อรัญประเทศ มีชุมชน ย่านการค้าการลงทุน ตลาดการค้าชายแดน และบริเวณลุ่มน้ำคลองพระสะทึง ที่มักเกิดน้ำท่วมน้ำหลากจากเขาสอยดาวไหลล้นคลองพระสะทึง บริเวณ อ.เขาฉกรรจ์ อ.วังน้ำเย็น และ อ.วังสมบูรณ์